Chiang Kham, our home town, is a small city and also the name of the district," amphoe" in Thai. It's located in Phayao province, on the border to Laos. Chiang Kham district is home to about 70,000 people.
เชียงคำ อำเภอเรา เป็นเมืองเล็กๆของจังหวัดพะเยา และติดกับชายแดนประเทศลาว มีประชากรโดยประมาณ70,000คน เชียงคำก็เป็นเหมือนเมืองเล็กๆอีกหลายเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เติบโตขึ้น แต่ชาวเชียงคำหลายๆกลุ่ม ก็พยายามอนุรักษ์วิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงไว้ เช่น กลุ่มชาวไทลื้อ เป็นต้น ที่พยายามสร้างและคงไว้ซึ่งสิ่งสำคัญเป็นต้นว่า พิพิธภัณฑ์ไทลื้อบ้านธาตุสบแวน รวมถึงตลาดนัดชุมชนชาวไทลื้อ ของแต่ละตำบล นอกจากนั้นเชียงคำก็ยังมีถนนคนเดินเหมือนกับเมืองอื่นๆ และมียังเทศกาลต่างๆ งานบุญ ในฤดูกาลต่างๆ
สำหรับวิถีชีวิตของชาวเชียงคำอีกอย่างที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาดคือ ตลาดเช้าในตัวเมือง ซึ่งเริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนไปจนถึงเก้าโมงเช้าของทุกวัน เวลาที่เหมาะมาตลาดคือ 6.00-8.00น. เป็นแหล่งที่ชาวเชียงคำ ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อมานัดเจอกัน เป็นที่ที่เหมาะกับการมาซื้ออาหารสำหรับมื้อเช้า เครื่องดื่มต่างๆ ที่ชาวพื้นเมืองนำมาจำหน่าย
นอกจากนั้นแล้ว เชียงคำยังมีวัดสำคัญต่างๆทั้งในตัวเมืองและรอบๆ ไว้ให้แขกผู้มาเยือนได้สักการะด้วย ด้านล่างคือ พระพุทธรูป พระนั่งดิน ซึ่งเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีประวัติยาวนานและเป็นพระคู่เมือง
เชียงคำ อำเภอเรา เป็นเมืองเล็กๆของจังหวัดพะเยา และติดกับชายแดนประเทศลาว มีประชากรโดยประมาณ70,000คน เชียงคำก็เป็นเหมือนเมืองเล็กๆอีกหลายเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เติบโตขึ้น แต่ชาวเชียงคำหลายๆกลุ่ม ก็พยายามอนุรักษ์วิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงไว้ เช่น กลุ่มชาวไทลื้อ เป็นต้น ที่พยายามสร้างและคงไว้ซึ่งสิ่งสำคัญเป็นต้นว่า พิพิธภัณฑ์ไทลื้อบ้านธาตุสบแวน รวมถึงตลาดนัดชุมชนชาวไทลื้อ ของแต่ละตำบล นอกจากนั้นเชียงคำก็ยังมีถนนคนเดินเหมือนกับเมืองอื่นๆ และมียังเทศกาลต่างๆ งานบุญ ในฤดูกาลต่างๆ
สำหรับวิถีชีวิตของชาวเชียงคำอีกอย่างที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาดคือ ตลาดเช้าในตัวเมือง ซึ่งเริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนไปจนถึงเก้าโมงเช้าของทุกวัน เวลาที่เหมาะมาตลาดคือ 6.00-8.00น. เป็นแหล่งที่ชาวเชียงคำ ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อมานัดเจอกัน เป็นที่ที่เหมาะกับการมาซื้ออาหารสำหรับมื้อเช้า เครื่องดื่มต่างๆ ที่ชาวพื้นเมืองนำมาจำหน่าย
นอกจากนั้นแล้ว เชียงคำยังมีวัดสำคัญต่างๆทั้งในตัวเมืองและรอบๆ ไว้ให้แขกผู้มาเยือนได้สักการะด้วย ด้านล่างคือ พระพุทธรูป พระนั่งดิน ซึ่งเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีประวัติยาวนานและเป็นพระคู่เมือง
วิถีชีวิตชาวไทลื้อ
ชาวไทลื้อตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำ ที่ตั้งบ้านเรือนจะแยกจากที่นาไร่เป็นสัดส่วน แต่บ้านทุกหลังจะมีสวนครัวปลูกผักไว้กินเอง และเลี้ยงวัวควายไว้ใช้เทียมเกวียนและไถนา เลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ไว้กินเป็นอาหาร ชาวไทลื้อมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไทลื้อที่อร่อยหลายอย่างเช่น แกงแค แอ่งแถะ น้ำปู น้ำผัก ฯลฯ และทุกครอบครัวจะขุดบ่อน้ำตื้นไว้ดื่มใช้และรองน้ำฝนไว้ดื่นกิน ชาวไทลื้อชอบดื่มน้ำร้อนจึงมักต้มน้ำดื่มโดยใส่ใบไม้หรือเมล็ดพืชที่เป็นผัก นำไปย่างไฟ จะมีกลิ่นหอม เช่น ใบทับทิม หรือฝักฉำฉา ชาวลื้อเรียกว่า น่ำหล่า
ครอบครัวไทลื้ออยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่มีปู่ย่า ตา ยาย ลุงป้า น้าอา พ่อแม่ลูก หลาน เหลน อยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น เคารพเชื่อฟังผู้อาวุโสกว่า โดยเฉพาะผู้หญิงจะเคารพยกย่องผู้ชายมากเป็นพิเศษ ด้วยความเชื่อว่าผู้ชายเป็นเพศพระ ศรัทธาคาถาอาคมซึ่งถือเป็นของสูง จะเห็นว่าผ่าเส่อหรือฟูกนอนของคู่สามีภรรยาไทลื้อ ฟูกของสามีปู 2 ชั้น ส่วนฟูกของภรรยาปูชั้นเดียว ผู้หญิงไทลื้อสุภาพเรียบร้อยขยันทำงานบ้านและต้องทำนาทำไร่เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายด้วย
***เกี่ยวกับชาวไทลื้อ ท่านสามารถศึกษาได้ตามตามแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งมีประวัติมายาวนาน ผมเองกลัวว่าจะให้ข้อมูลได้ไม่ชัดเจน
***ขอบคุณภาพและข้อความจากเพจ Tailueradio เราไม่มีความประสงค์จะล่วงละเมิด แต่ขอเอามาแพร่เพื่อเป็นข้อมูลความรู้เท่านั้น
ชาวไทลื้อตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำ ที่ตั้งบ้านเรือนจะแยกจากที่นาไร่เป็นสัดส่วน แต่บ้านทุกหลังจะมีสวนครัวปลูกผักไว้กินเอง และเลี้ยงวัวควายไว้ใช้เทียมเกวียนและไถนา เลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ไว้กินเป็นอาหาร ชาวไทลื้อมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไทลื้อที่อร่อยหลายอย่างเช่น แกงแค แอ่งแถะ น้ำปู น้ำผัก ฯลฯ และทุกครอบครัวจะขุดบ่อน้ำตื้นไว้ดื่มใช้และรองน้ำฝนไว้ดื่นกิน ชาวไทลื้อชอบดื่มน้ำร้อนจึงมักต้มน้ำดื่มโดยใส่ใบไม้หรือเมล็ดพืชที่เป็นผัก นำไปย่างไฟ จะมีกลิ่นหอม เช่น ใบทับทิม หรือฝักฉำฉา ชาวลื้อเรียกว่า น่ำหล่า
ครอบครัวไทลื้ออยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่มีปู่ย่า ตา ยาย ลุงป้า น้าอา พ่อแม่ลูก หลาน เหลน อยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น เคารพเชื่อฟังผู้อาวุโสกว่า โดยเฉพาะผู้หญิงจะเคารพยกย่องผู้ชายมากเป็นพิเศษ ด้วยความเชื่อว่าผู้ชายเป็นเพศพระ ศรัทธาคาถาอาคมซึ่งถือเป็นของสูง จะเห็นว่าผ่าเส่อหรือฟูกนอนของคู่สามีภรรยาไทลื้อ ฟูกของสามีปู 2 ชั้น ส่วนฟูกของภรรยาปูชั้นเดียว ผู้หญิงไทลื้อสุภาพเรียบร้อยขยันทำงานบ้านและต้องทำนาทำไร่เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายด้วย
***เกี่ยวกับชาวไทลื้อ ท่านสามารถศึกษาได้ตามตามแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งมีประวัติมายาวนาน ผมเองกลัวว่าจะให้ข้อมูลได้ไม่ชัดเจน
***ขอบคุณภาพและข้อความจากเพจ Tailueradio เราไม่มีความประสงค์จะล่วงละเมิด แต่ขอเอามาแพร่เพื่อเป็นข้อมูลความรู้เท่านั้น